หัวเรื่อง จงเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้า
พระธรรม อพยพ 20:18-21
คนทั้งหลายเมื่อได้ยิน ได้เห็นฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เสียงแตร และควันที่พลุ่งขึ้นจากภูเขาเช่นนั้น ต่างก็ยืนตัวสั่นอยู่แต่ไกล 19เขาจึงกล่าวแก่โมเสสว่า “ท่านจงนำความมาเล่าเถิด พวกข้าพเจ้าจะฟัง แต่อย่าให้พระเจ้าตรัสกับพวกข้าพเจ้าเลย เกรงว่าข้าพเจ้าจะตาย” 20โมเสสจึงกล่าวแก่ประชาชนว่า “อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าเสด็จมาเพื่อลองใจท่านทั้งหลาย เพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระองค์และจะได้ไม่ทำบาป” 21ประชาชนยืนอยู่แต่ไกล แต่โมเสสเข้าไปใกล้ความมืดทึบที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่นั้น
คำนำ งานวิจัยในปี คศ. 1900 ของมิสเตอร์วินสัน “แม่ที่ยำเกรงพระเจ้า”
ในปี คศ. 1900 มิสเตอร์วินสัน ได้ทำการวิจัยผู้เป็นคุณแม่ 2 คน คนแรก คือ นางซาราห์ เอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นภรรยาศิษยาภิบาลในศตวรรษที่ 18 ซาราห์มีบุตรชายหญิงทั้งหมด 11 คน เธอเป็นผู้ที่มีหลักการชีวิตที่เข้มงวดในการอบรมสั่งสอนลูก ๆ ของเธอ เธอเอาใจใส่เขาด้วยความรักและความยำเกรงในพระเจ้า
พบว่า บุตรหลานในตระกูลของเธอจำนวน 1,400 คน
- Ø ในจำนวนนี้มี 14 คนเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัย
- Ø 100 คนเป็นคณบดี
- Ø 65 คนเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
- Ø 100 คนเป็นทนายความ
- Ø 1 คนเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์
- Ø 30 คนเป็นผู้พิพากษาที่มีตำแหน่งสูง
- Ø 60 คนเป็นหมอ
- Ø 1 คนเป็นคณบดีแพทย์ศาสตร์
- Ø 80 คนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลชั้นสูง รวมทั้งรัฐมนตรีคลังและรองประธานาธิบดี
- 1. อะไรคือยำเกรงพระเจ้า
1.1. ภาษากรีก หมายถึงเกรงกลัว ตื่นตัว และ "ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า”
1.2. ในภาษาฮีบรู หมายถึงเกรงกลัว เกรงขาม การยอมรับ นับถือ เคารพสักการะ รับเข้ามามีส่วนและอ่อนน้อมถ่อมตน
1.3. ความเข้าใจผิด ยำเกรงพระเจ้า “ความกลัว” อพยพ 20:18-20
19เขาจึงกล่าวแก่โมเสสว่า “ท่านจงนำความมาเล่าเถิด พวกข้าพเจ้าจะฟัง แต่อย่าให้พระเจ้าตรัสกับพวกข้าพเจ้าเลย เกรงว่าข้าพเจ้าจะตาย” 20โมเสสจึงกล่าวแก่ประชาชนว่า “อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าเสด็จมาเพื่อลองใจท่านทั้งหลาย เพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระองค์และจะได้ไม่ทำบาป
1.4. ความหมายโดยรวม
1.4.1. การตระหนักถึงความบริสุทธิ์ ความเที่ยงธรรม และความชอบธรรมซึ่งมาพร้อมกับความรักและพระเมตตาของพระองค์ (อพยพ 19:10,14,22 สุภาษิต 9:10)
10 พระเจ้าจึงรับสั่งกับโมเสสว่า “ไปบอกให้ประชาชนชำระตัวให้บริสุทธิ์ในวันนี้และพรุ่งนี้ ให้เขาซักเสื้อผ้าเสียให้สะอาด 14 โมเสสลงจากภูเขามายังประชาชน แล้วสั่งให้เขาชำระตัวให้บริสุทธิ์ และซักเสื้อผ้าให้สะอาด 22 พวกปุโรหิต ที่เข้ามาเฝ้าพระเจ้านั้นให้เขาชำระตัวให้บริสุทธิ์ ด้วยเกรงว่าพระเจ้าจะทรงพระพิโรธลงโทษเขา
สุภาษิต 9:10 ความยำเกรงพระเจ้า เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และซึ่งรู้จักองค์บริสุทธิ์ เป็นความรอบรู้
1.4.2. การเคารพพระองค์ด้วยความเกรงขาม ตระหนักรู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก เป็นพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุดและมีฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่ง อพยพ 19:16,18-19, 20:18
19.16 อยู่มาพอถึงรุ่งเช้าวันที่สาม ก็บังเกิดฟ้าร้อง ฟ้าแลบ มีเมฆอันหนาทึบปกคลุมภูเขานั้นไว้กับมีเสียงแตรดังสนั่น จนคนทั้งปวงที่อยู่ในค่ายต่างก็พากันกลัวจนตัวสั่น 20.18 คนทั้งหลายเมื่อได้ยิน ได้เห็นฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เสียงแตร และควันที่พลุ่งขึ้นจากภูเขาเช่นนั้น ต่างก็ยืนตัวสั่นอยู่แต่ไกล
1.4.3. คือการเชื่อฟังพระดำรัส (พระวจนะ) ของพระเจ้าอย่างหมดใจ “เช่นบัญญัติสิบประการ” อพย 20:3-17 , 2 พงศ์กษัตริย์ 17:34
34ทุกวันนี้เขาก็กระทำตามอย่างเดิม เขาทั้งหลายไม่ยำเกรงพระเจ้า และเขาทั้งหลายไม่กระทำตามกฎเกณฑ์หรือกฎหมาย หรือธรรม หรือพระบัญญัติ ซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาแก่ลูกหลานของ ยาโคบ ผู้ซึ่งพระองค์ทรงประทานนามว่าอิสราเอล
(ตัวอย่างอับราฮัมเชื่อฟังพระเจ้า ปฐก 22:12) 12ทูตสวรรค์ว่า “อย่าแตะต้องเด็กนั้นหรือกระทำอะไรเขาเลย เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรงพระเจ้า ด้วยเห็นว่าเจ้ามิได้หวงบุตรชายของเจ้า แต่ยอมถวายบุตรชายคนเดียวของเจ้าให้เรา”
- 2. ทำไมเราจึงต้องเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้า
2.1. ทำให้เราไม่กล้าทำบาป แต่มีความกล้าเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น อพย 20:20-21
20โมเสสจึงกล่าวแก่ประชาชนว่า “อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าเสด็จมาเพื่อลองใจท่านทั้งหลาย เพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระองค์และจะได้ไม่ทำบาป” 21ประชาชนยืนอยู่แต่ไกล แต่โมเสสเข้าไปใกล้ความมืดทึบที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่นั้น
ตัวอย่าง โยเซฟกับภรรยาขอโปทิฟาร์ / ศิษยาภิบาลซ่อนกิ๊กจนท้องป่อง
2.2. ทำให้เราเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า อพยพ 1.20-21
20พระเจ้าจึงทรงโปรดปรานนางผดุงครรภ์นั้น ประชาชนยิ่งทวีมากขึ้น และมีกำลังเข้มแข็งมาก 21เพราะนางผดุงครรภ์นั้นยำเกรงพระเจ้า พระองค์จึงได้ทรงให้เขาทั้งสองมีครอบครัว
2.3. ทำให้เราได้รับพระพรจากพระเจ้า สดุดี 34:9, 115:13, 128:4
13พระองค์จะทรงอำนวยพระพรแก่บรรดา ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่
2.4. ทำให้ลูกหลานได้รับพระพรจากพระเจ้า สภษ 14:26
26ความยำเกรงพระเจ้าทำให้คนอยู่อย่างอุ่นใจ ลูกหลานของเขาจะมีที่พึ่ง
ตัวอย่างคนเกาหลีรักพระเจ้า ส่งผลมาหลายชั่วอายุคน
2.5. ทำให้ชีวิตมีความสวัสดิมงคล ปัญญาจารย์ 8:12 (ย่อมดีกว่าคนอธรรม)
แม้ว่าคนบาปทำชั่วตั้งร้อยครั้งและอายุ เขายังยั่งยืนอยู่ได้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังรู้แน่ว่าความสวัสดิมงคล จะมีแก่เขาทั้งหลายที่ยำเกรงพระเจ้า คือที่มีความยำเกรงต่อพระพักตร์พระองค์
2.6. ทำให้เราได้รับปัญญาและความรู้ สุภาษิต 1:7, 9:10
7ความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดของ ความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและคำสั่งสอน , 9.10 ความยำเกรงพระเจ้า เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และซึ่งรู้จักองค์บริสุทธิ์ เป็นความรอบรู้
ตัวอย่างหญิงชาวจนที่แต่งบทเพลงคานาอัน ใช้ร้องนมัสการทั่วโลก
2.7. ทำให้มีชีวิตยืนยาว สุภาษิต 10:27 (เช่นเฮเซคียาห์)
27ความยำเกรงพระเจ้านั้นยืดชีวิตให้ยาวไป แต่ปีเดือนของคนชั่วร้ายนั้นจะสั้นเข้า
2.8. ทำให้พระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของเรา ยอห์น 9:31
31พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิได้ฟังคนบาป แต่ถ้าผู้ใดยำเกรงพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังผู้นั้น
2.9. ทำให้เราได้รับความเคารพยำเกรงจากคนอื่น สุภาษิต 22:4, 31:30
4บำเหน็จของความถ่อมใจและความยำเกรงพระเจ้า คือความมั่งคั่งเกียรติและชีวิต, 31:30 เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็เปล่าประโยชน์ แต่สตรียำเกรงพระเจ้า สมควรได้รับคำสรรเสริญ
ตัวอย่าง อนุชนสองคนไปเรียนพระคัมภีร์
2.10. เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาสิ่งที่เรากระทำทั้งหมด ปญจ 12.14
14ด้วยว่าพระเจ้าจะทรงเอาการงาน ทุกประการเข้าสู่การพิพากษาพร้อมด้วยสิ่งเร้นลับทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่ว
- 3. จะดำเนินชีวิตที่ยำเกรงพระเจ้าอย่างไร (ครั้งต่อไป)
สรุป
ความยำเกรงพระเจ้าไม่ใช่เลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่เป็นท่าทีและหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน ควรมีต่อพระเจ้า โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อในพระเจ้า ปัญญาจารย์กล่าวว่า “จบเรื่องแล้ว ได้ฟังกันทั้งสิ้นแล้ว จงยำเกรงพระเจ้า และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เพราะนี่แหละเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทั้งปวง” ( ปัญญาจารย์ 12:13-14 )